Nipponkitchen

ห่างหายไปจากการทำของทอดนานแสนนาน คงจะพอเดาได้ใช่รึเปล่าคะว่าต๊ะกำลังไดเอ็ท ฮ่าฮ่า มันช่างเป็นเรื่องที่ไม่ถนัดเอาซะเลย ทรมานตัวเองอยู่พักใหญ่กว่าจะลดลงได้ มันก็ไม่แปลกหรอกที่ต๊ะจะใช้เวลานานกว่าชาวบ้านเค้า ก็ไดเอ็ทของต๊ะน่ะมีอาหารครบทั้ง 3 มื้อ (กินข้าว ไข่ หมู หนังและเนื้อไก่ และพาสต้าตามปกติ) แถมมีขนมปังยามบ่ายอีกนะ ก็เลยเห็นผลช้ากว่า แต่ก็เอาเถอะในที่สุดต๊ะก็กลับมาขึ้นชกรุ่นเดิมได้แล้ว ก็จะขอตามใจปากแบบสุดๆ บ้างแล้วกัน  

พูดถึงเมนูวันนี้กุ้งชุบเกล็ดขนมปังทอดที่ต๊ะทำกินกัน 3 คน พ่อแม่ลูกดีกว่า วิธีการทำไม่ได้ต่างจากอาหารชุบเกล็ดขนมปังทอดที่เคยทำมาหรอกนะคะ แต่วันนี้พิเศษหน่อยก็คือต๊ะใช้เกล็ดขนมปังสด (Fresh Panko) เป็นครั้งแรก ยอมรับว่าตื่นเต้นกับผลงานมาก  เกล็ดขนมปังสดที่ต๊ะเคยมองข้ามตลอดนี่มันแบบสุดยอด ทอดกุ้งออกมาไม่อมนํ้ามัน กรอบนาน และทีสำคัญเกล็ดขนมปังมันฟุ้งเบา โอ ดู(เผินๆ) เหมือนของสั่งกินที่ร้านเลย 

ในซุปเปอร์มาเก็ตที่ญี่ปุ่นจะมีเกล็ดขนมปังแบบสด และแบบอบ แพคใส่ซองซิปลอค ขายกันหลากหลายแบบ หลากหลายยี่ห้อ ปกติแล้วต๊ะจะใช้แบบอบเพราะเก็บได้นานกว่า ราคาก็ถูกกว่าเยอะมากๆ แต่เกล็ดขนมปังสดก็อยากลองมาตลอด จนมีโอกาสได้เจอแบบถุงเล็กประมาณว่าใช้ครั้งสองครั้งน่าจะหมด ก็เลยซื้อมาลองใช้ ก็ปลื้มมากกับกุ้งทอดจานนี้ 

นอกจากเกล็ดขนมปังแล้วสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับอาหารจานนี้ก็คือกุ้ง กุ้งที่เหมาะจะเอาทำทำเมนูนี้ที่สุดคือกุ้งกุลาดำหรือ Tiger Prawn  เพราะหวานฉํ่า และเนื้อแน่นกว่ากุ้งอย่างอื่น ส่วนจะเอาแบบมีหัวหรือเปล่าก็แล้วแต่ชอบ ต๊ะเองชอบหัวกุ้งเป็นที่สุด ส่วนโคชิ (ลูกชาย) พอเห็นหน้ากุ้งเท่านั้นลมจะใส่ ร้องไห้โวยวายจะเอาออกให้ได้ โถลูกนี่แค่หัวกุ้งนะ ถ้าหัวหมู หรือหางวัวแล้วค่อยกลัวเหอะ 

ในกรณีที่ถ้าหากุ้งกุลาไม่ได้จริงๆ ก็ใช้กุ้งอื่นได้ตามสะดวก แต่ถ้าอยากให้เนื้อกุ้งกรอบขึ้น ต๊ะแนะนำให้ โรยเบกกิ้ง โซดา ลงบนตัวกุ้ง ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยนํ้าเย็น เนื้อกุ้งจะแน่นขึั้น เอาล่ะค่ะ หิวกันแล้วใช่ไหมคะ 

เอาล่ะค่ะตามมาดูสูตรกุ้งชุบเกล็ดขนมปังทอด  (Ebi Furai エビフライ) ที่ต๊ะ ทำกินกับซาดาโอะ และโคชิดีกว่า อร่อยน้า 

ส่วนผสม

กุ้งกุลาดำ 3 ตัว 

แป้งสาลี
เกลือและพริกไทยเล็กน้อย 

ไข่ไก่ 1 ฟอง 

เกล็ดขนมปังสด 

ทาร์ทาร์ซอสสไตล์ญี่ปุ่น สำหรับเสริ์ฟ (ตามชอบ)

ซอสทงคัตสึ 

กะหลํ่าปลี
เลมอน
นํ้ามันคาโนลา สำหรับทอด

วิธีทำ

1. ล้างทำความสะอาดกุ้ง และบั้งใต้ท้องเตรียมไว้ (ดูวิธีเตรียมที่นี่) โรยเกลือ พริกไทยบางๆ ให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
2. ตอกไข่ เตรียมแป้ง และเกล็ดขนมปังใส่จานไว้
2. เอากุ้งลงชุบไข่ แป้ง แล้วชุบไข่่อีกครั้ง แล้วเอาไปคลุกเกล็ดขนมปัง กดเบาๆ
3. เอากุ้งลงทอดในนํ้ามันที่อุณหภูมิ 180 องศา จนสุกเป็นสีนํ้าตาลทอง
4. จัดใส่จานเสริ์ฟกับทาร์ทาร์ซอส ซอสทงคัตสึ เลมอน และผักสดตามชอบ ลองทำกันดูนะคะ

ตอนที่ตั้งชื่อเมนูนี้ว่าเต้าหู้ต้มซีอิ้วเนี่ยต๊ะก็ขำตัวเองเหมือนกันนะ หนึ่งคือมันเป็นชื่อที่สร้างสรรค์มาก ไม่ซํ้าใครเล้ย สองเต้าหู้เนี่ยถ้าเอาไปต้ม ที่ญี่ปุ่นร้อยทั้งร้อยใส่ซีอิ้วหมด ถ้ามีสูตรเต้าหู้อื่นๆ อีก จะต้องตั้งเป็นต้มซีอิ้วสูตร 1 สูตร 2 สูตร 3 รึเปล่าก็ยังไม่แน่ใจ 

ตามที่ต๊ะเคยบอกไว้แล้วว่าตอนนี้ต๊ะบริหารเวลาในครัวได้ดีขึ้นมากโขเทียบกับตอนย้ายมาโตเกียวใหม่ๆ  นอกจากอาหารจานหลักแล้วต๊ะก็ขยันทำ side dish กับผักดอง (Tsukemono) เป็นว่าเล่น และต๊ะก็เชื่อว่าเมื่อคุณๆ คุ้นกับอาหารญีปุ่น และทำอาหารญี่ปุ่นไประยะหนึ่งจะต้องอยากทำ side dish เหมือนกับต๊ะแน่ๆ 

พูดถึงเมนูวันนี้ดีกว่าโคยะ โดฟู (Koya Dofu) เป็นเต้าหู้ที่นำมาตากหลายวันจนแห้งสนิท ที่ซุปเปอร์มาเก็ตในโตเกียวจะแพ็คใส่ซองพลาสติกขายรวมกับอาหารแห้ง เวลายกขึ้นมาจะรู้เลยว่ามันเบาจนแทบไม่รู้สึกว่าถืออะไรอยู่ ตอนย้ายมาโตเกียวใหม่ๆ ต๊ะเคยหลงคิดว่าเป็นสบู่ หรือหินขัดเท้าไปโน่น แต่ยังโชคดีที่ไม่ได้ลองซื้อมา เพราะนึกสงสัยอยู่ว่าเค้าเอาของแบบนี้มาวางขายกับอาหารทำไม ขืนซื้อมาแล้วเอาไปวางในห้องนํ้า ซาดาโอะได้มีเรื่องแซวต๊ะไปอีกหลายวัน 

โคยะ โดฟู เมื่อเอามาแช่นํ้า แล้วเอาไปต้มกับซีอิ้ว เนื้อเต้าหู้ที่แห้งๆ แข็งๆ จะเปลี่ยนเป็นนุ่ม หยุ่นๆ เหมือนฟองนํ้า สังเกตดูจะมีรูเล็กๆ อยู่ในเนื้อเต้าหู้ เวลากัดไปจะได้รสซีอิ้ว กับเครื่องปรุงอื่นๆ ทะลักออกมาแบบเต็มๆ เป็นเมนูที่ต๊ะชอบ แต่ก็ไม่ได้ทำบ่อย เพราะแช่แข็งเก็บไว้ใส่เบนโตะไม่ได้ เวลาทำต้องทำทีละนิด และกินให้หมดภายในวันสองวัน 

ระหว่างเตรียมอาหารหลัก เตรียมโคยะ โดฟุ ไว้เป็น side dish กันดีกว่านะคะ ตามมาดูสูตรเต้าหู้ต้มซีอิ้วที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะ และโคชิ ดีกว่า อร่อยน้า  

ส่วนผสม

โคยะ โดฟู 4 ชิ้น 

ดาชิ 600 มล.

โชยุ 3 ช้อนโต๊ะ 

สาเก 3 ช้อนโต๊ะ 

มิริน 3 ช้อนโต๊ะ 

นํ้าตาล 1/2 ช้อนชา 

แครอท และถั่วลันเตา 

วิธีทำ

1. แช่โคยะ โดฟุไว้ในนํ้าจนนิ่ม บีบนํ้าออก (บีบให้นํ้าออกมาให้เยอะที่สุดนะคะ ไม่ต้องกลัวเต้าหู้ขาดนะคะ) แล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ (ไม่ได้ถ่ายรูปทุกขั้นตอนนะคะ) 

2. ใส่ดาชิ สาเก มิริน โชยุ และนํ้าตาลลงไปในหม้อ ใส่เต้าหู้ในข้อ 1 ตามลงไป ต้มไฟ่อ่อนประมาณ 15 นาที จนนํ้าแห้งเกือบหมด 

3. ระหว่างนี้ลวกแครอท กับถั่วลันเตาไว้เลยค่ะ 

4. เสร็จแล้วจัดเต้าหู้ใส่จาน ตกแต่งด้วยแครอท กับถั่วลันเตาให้สวยงาม เสริ์ฟได้ค่ะ ลองทำกันดูนะคะ 

โพสต์นี้เป็นโพสต์ที่ต๊ะดองไว้นานมากๆ ถ้ายังถ่ายรูปแบบใช้ฟิล์มอยู่คงจะเห็นความกรอบเหลืองของรูปเป็นแน่ ต๊ะเขียนเรื่องเบนโตะมานานหลายปี ยังไม่มีโอกาสได้เขียนเรื่องพื้นๆ อย่างเบนโตะคืออะไร เบนโตะที่สวยเป็นยังไง จัดเบนโตะยังไงให้น่ากิน และดีต่อสุขภาพ ทั้งๅ ที่น่าจะเขียนตั้งแต่แรก แต่ก็อย่างที่บอกไปหลายครั้งว่าต๊ะเขียนบล็อกแบบไม่มีแผน ไม่มีโครง ก็ทำไปแก้ไป อะไรๆ มันก็เลยยังดูขาดๆ เกินๆ ไปบ้าง หวังว่ายังไม่เบื่อกันไปซะก่อนนะคะ 

ปกติแล้ว ถ้ามีเวลาว่างพวกคุณแม่ญี่ปุ่นจะขยันไปเรียน ไปเข้าชมรม อบรมอะไรต่างๆ แบบจริงจังกันสุดๆ ที่ต๊ะเห็นมาบางคนไปเรียนตั้ง 4-5 อย่าง ในหนึ่งอาทิตย์ แต่จะว่าไปในโตเกียวก็มีคอร์สพัฒนาตัวเองหลายอย่างมากมายให้เลือกเรียน ไม่ว่าจะเป็นทำอาหาร ทำขนม งานฝีมือ ร้องเพลง เต้นรำ เล่นก๊ฬา บางคนก็สนใจจริงจัง บางคนก็ไปเรียนเพื่อไปเจอเพื่อนบ้าง อะไรบ้าง จริงๆ แล้วการเล่นเน็ต เขียนบล็อก ที่ต๊ะทำอยู่เนี่ยไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีเท่าไหร่ และจะว่าไปคงไม่ค่อยมีใครเค้าทำกันหรอก ดังนั้นเพื่อจะได้เป็นคุณแม่ที่มีสาระกับเค้าบ้าง ปีที่ผ่านมาต๊ะจึงไปสมัครอบรมการทำเบนโตะขั้นพื้นฐานกับโคชิที่โรงเรียน ถือเป็นการใช้เวลาว่างแบบมีแก่นสารครั้งแรกเลยทีเดียว

พูดถึงบรรยากาศการอบรมดีกว่า เนื่องจากจัดที่โรงเรียนจึงสถานที่อบรมจึงเต็มไปด้วยนักโภชนากร ครู มีการแจกเอกสาร presentation แบบว่าเป็นเรื่องเป็นราวมาก ครูพูดยืดยาวมากมาย ต๊ะขอสรุปสั้นๆ แบบนี้นะคะ

เบนโตะคืออะไร เบนโตะคืออาหารกลางวันที่ใส่ในกล่องสำหรับไปกินนอกสถานที่ ถ้าเราซื้อโจ๊กมาจากปากซอย แล้วเทใส่ปิ่นโต เอาไปนั่งกินตอนรถติดระหว่างทางไปทำงาน แบบนั้นไม่ถือว่าเป็นเบนโตะถึงมันจะอร่อยก็เถอะนะ และถึงเบนโตะจะเป็นวัฒนธรรมของญีปุ่นแต่ก็ไม่ได้มีข้อจำกัดว่าอาหารในเบนโตะต้องเป็นอาหารญี่ปุ่น จะเป็นอาหารอะไรก็ได้ แต่ขอให้เป็นอาหารที่ไม่มีนํ้าเยอะ ปรุงสุก 100 เปอร์เซ็นต์ และไม่เสียง่าย อร่อยได้ในอุณหภูมิห้อง อันนี้คือคอนเซ็ปต์ของเบนโตะ

สัดส่วนของอาหารในเบนโตะ สัดสวนที่เหมาะสม และดีต่อสุขภาพก็คือคาร์โบไฮเดรต 50 เปอร์เซ็นต์ โปรตีน 25 เปอร์เซ็นต์ และผักต่าง ๆ 25 เปอร์เซ็นต์ และจะต้องมีแคลอรี่ที่พอเหมาะ

เมนูที่เด็กๆ จะทำใส่เบนโตะวันนี้เป็นแซนวิซสไตล์ญี่ปุ่น มีทั้งไส้ไก่เทอริยากิ ไส้กุ้งชุบเกล็ดขนมปังทอด และไส้ไข่ พวกแม่ๆก็ได้แต่เอาใจช่วยอยู่ใกล้ๆ ไม่ได้ลงมือทำกันสักเท่าไหร่ ก็พวกเด็กๆ น่ะพอได้จับตะหลิวล่ะก็ยอมเราซะที่ไหน แต่ก็ดีออกได้พักมือบ้าง พักขาบ้าง ทำเสร็จแล้วเด็กๆ ก็จะจัดอาหารใส่กล่อง คุณครูและนักโภชนาการก็มาเดินดู และพูดคุย แนะนำบ้าง

แอ่นแอ้น และนี่คือหน้าตาเบนโตะของโคชิค่ะ จัดได้ดีพอใช้ ส่วนตัวต๊ะว่าน่าจะมีสีเขียวมากกว่านี้ และน่าจะจัดให้ไม่เหลือที่ว่างในกล่อง แต่เจ้าตัวภูมิใจมาก ทำเสร็จ กินเสร็จ ยิ้มไม่มีหุบทีเดียว
เอาล่ะค่ะ ไหนๆ ก็พูดเรืองเบนโตะแล้วก็จะพูดเรื่องนี้ต่ออีกสักหน่อยนะคะ ไม่ได้เป็นความรู้ที่ได้มาจากการอบรม แต่เป็นสิ่งที่ต๊ะได้มาจากประสบการณ์ของตัวเอง และเป็นเรื่องเบนโตะที่ลงลึกมากกว่าพื้นฐานหน่อย แต่จะบอกว่าระดับสูงมันก็กระดากปากนะคะ (เอ่อ ความรู้จากต๊ะมันก็เชื่อถือได้เหมือนกันนะ) นอกจากคุณค่าทางโภชนาการแล้ว ความหลายหลายในเรื่องรสชาติ และ Texture ก็เป็นเรื่องสำคัญในการจัดเบนโตะให้สวย และอร่อย ต๊ะมีเบนโตะกล่องหนึ่งอยากให้ดู เป็นเบนโตะที่ต๊ะทำส่งประกวดเมื่อนานมากแล้ว
อาหารที่อยู่ในเบนโตะด้านบนนั้นมีทั้งรสชาติที่หลากหลาย และ Texture ที่ต่างกัน มีรสหวานจากอินารืซูชิ รสเปรี้ยวจากบ๊วย รสขมจากมะระ รสเค็มจากไข่พะโล้ ในเรื่องของ Texture ก็มีทั้งเรียบลื่น เป็นมันวาว ขรุขระ (ใช้คำนี้แล้วดูไม่เหมือนอาหารแฮะ) และสุดท้ายเวลาจัดเบนโตะอย่าลืมให้ความสำคัญกับการใช้สีนะคะ อาหารในเบนโตะควรจะมีสีที่หลากหลาย แต่ก็ไม่ควรจะมากจนรู้สึกเยอะ ตาลาย ถ้าคุณมีพื้นฐานด้านศิลปะมาบ้าง เรื่องนี้ไม่ยากเลยค่ะ

เล่ากันพอหอมปากหอมคอ ขอจบแค่นี้ดีกว่า วันหลังจะมาเล่าถึงกล่องเบนโตะ และวิธีเลือกซื้อกล่องเบนโตะกันบ้าง วันนี้ไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ 

สำหรับต๊ะแล้วข้าวผัดมักจะเกิดจากการรวมตัวของอาหารเหลือในตู้เย็นในกระทะ เป็นเมนูชวยเคลียร์ และทำความสะอาดตู้เย็น ที่ทำง่าย และอร่อยอีกต่างหาก แต่ก็มีบ้างเหมือนกันนะที่ต๊ะตั้งใจทำข้าวผัด และหาซื้อเครื่องปรุงมาเพื่อการนั้นโดยเฉพาะ อย่างข้าวผัดปลาแซลมอนจานนี้ต๊ะใช้ปลาแซลมอนหมักเกลือย่างใหม่ๆ ทั้งชิ้น ลอกหนังปลาทิ้ง (ลงท้อง) ยีให้เป็นชิ้นเล็กๆ  ผัดกับข้าว ใส่นํ้ามันมะกอก เนยสด และกระเทียมผง (Garlic Powder) ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว และเกลือ เป็นข้าวผัดที่แสนจะตั้งใจ และเป็นความอร่อยแบบจานเดียวจบ

ข้าวที่ใช้ทำข้าวผัดวันนี้แน่นอนว่าเป็นข้าวญี่ปุ่น เพราะว่ามีอยู่ติดครัวตลอด และตอนนี้เงินเยนอ่อนยวบยาบ อยากกินข้าวหอมมะลิเหมือนกันแต่เงินในกระเป๋าไม่อำนวย ฮ่า ฮ่า ถ้าใครอยากใช้ข้าวไทย อย่างข้าวหอมมะลิ หรือข้าวบาสมาตี ก็ใช้ได้หมดไม่มีปัญหาค่ะ แถมบางทีอาจจะอร่อยกว่าด้วย ในส่วนของปลาแซลมอนจะใช้แซลมอนหมักเกลือ หรือแซลมอนสดย่างก็ตามความชอบ และความสะดวก  แต่ส่วนตัวแล้วต๊ะว่าแซลมอนหมักเกลืออร่อยกว่า และจะดีมากถ้าใช้เนื้อปลาที่ติดมันหน่อย เวลาเอามาผัดกับข้าวเนื้อปลาจะได้ไม่แห้ง และไขมันปลาจะช่วยให้ข้าวมันวิบวับแวววาว โอ ได้โอเมก้า 3 ด้วยนะเนี่ย

ถ้าชอบข้าวผัดต๊ะขอฝากเมนูนี้ไว้ในอ้อมใจอีกสักหนึ่งเมนู ลองทำดูรับรองจะติดใจ เอาล่ะค่ะตามมาดูสูตรข้าวผัดปลาแซลมอนที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะ และโคชิดีกว่า อร่อยน้า

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะไฟแรงใส่เนยลงไป พอเนยละลายใส่ข้าวลงไปผัด แล้วตามด้วย garlic powder ซีอิ้วขาว
2. ตอกไข่ลงไป พอไข่เริ่มเซ็ตตัวใช้ตะหลิวยีให้เป็นชิ้นเล็กๆ ผัดให้เข้ากับข้าว แล้วใส่ต้นหอมซอย ผัดเร็วๆ
3. ตักใส่จานเสริ์ฟได้ค่ะ ลองทำกันดูนะคะ

ตั้งแต่ทำอาหารญี่ปุ่นมาสปาเก็ตตี้นโปลิตันเป็นเมนูแรกที่ต๊ะไม่เคยกินนอกบ้านมาก่อนเลยแม้แต่หนเดียว เพราะถ้าจะไปกินอาหารข้างนอกก็จะเข้าแต่ร้านราเมน อุด้ง โซบะ หรือซูชิไปเรื่อย เพราะมีร้านให้เลือกเยอะกว่า อีกอย่างที่ไม่เค้ย ไม่เคยก็เพราะซาดาโอะนั่นแหละบอกว่า"อาหารง่ายๆ ไม่ต้องไปซื้อหรอกทำเองเหอะ และช่วยทำหน่อยอยากกิน ก็ต้มเส้นแล้วใส่ซอสมะเขือเทศ แล้วตักใส่จานแค่นี้ทำได้รึเปล่า" อันนี้เป็นรีเควส หวานๆ จากสามี 

ครั้งแรกที่ทำจัดตามซาดาโอะบอกเป๊ะๆ เอ่อ ออกมาต๊ะกินไม่ได้เลย มันเปรี้ยวและทื่อมาก เอามาเสริ์ฟแบบงงๆ แต่ซาดาโอะต้องกินเพราะเป็นเจ้าของสูตร ถึงครั้งแรกจะออกมาดูไม่จืดแต่ต๊ะก็ไม่ย่อท้อ ด้นเดาไปเรื่อยๆ ทำอยู่ 3-4 ครั้ง จนออกมาได้รสแบบที่ซาดาโอะบอกว่าอร่อย และนี่ล่ะสปาเก็ตตี้นโปลิตันของแท้

สปาเก็ตตี้นโปลิตัน เป็นสปาเก็ตตี้ผัดซอสมะเขือเทศสไตล์ญี่ปุ่น เป็นอาหารฟิวชั่นยอดฮิตขวัญใจเด็ก ๆ มีรสเปรี้ยวหวานจากซอสมะเขือเทศ เผ็ดนิดๆ จากพริกหวาน และหอมมันจากเนย และ Parmesan Cheese ที่เราโหมใส่ลงไป ในส่วนของโปรตีนส่วนมากแล้วจะเป็นไส้กรอก แต่ถ้าไม่ชอบจะใส่อกไก่แทนก็อร่อย และเข้ากันดีค่ะ เชื่อต๊ะเถอะ เมนูนี้อร่อยนะ

เอาล่ะค่ะตามมาดูสูตร สปาเก็ตตี้นโปลิตัน Spaghetti Neapolitan スパゲッティーナポリタン ที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะ และโคชิดีกว่า อร่อยน้า